นักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงของโลกอาหรับชี้ถึงความหวาดกลัวของไซออนิสต์ต่อการโจมตีเอาคืนของอิหร่านและย้ำว่าสถานการณ์ขณะนี้กำลังตรึงเครียดอย่างมาก

      ญอมนิวส์รายงานว่า : "อับดุลบารี อัฏวาน" นักวิเคราะห์ชื่อดังของโลกอาหรับได้กล่าวในบทความหนึ่งว่า : นายพลกอซิม สุไลมานี พร้อมที่จะแก้แค้นให้กับบรรดาชะฮีดที่เสียชีวิตจากการโจมตีฐานทัพ T-4 และชี้ถึงกองทัพอิสราเอลนั้นมีความหวาดกลัวต่อเครื่องบินไร้คนขับและขีปนาวุธของอิหร่าน ได้ส่งกำลังเสริมตามแนวรบด้านเหนือของซีเรียและอยู่ในการเตรียมพร้อม สงครามตามที่ฟรีดแมน นักเขียนชาวอเมริกันได้คาดการณ์ไว้นั้น ใกล้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่?

      นักวิเคราะห์ของโลกอาหรับผู้นี้ได้เขียนว่า : "แม้การโจมตีไตรภาคีของอเมริกา, ฝรั่งเศสและอังกฤษที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (14-4-61) ที่ผ่านมาจะสิ้นสุดลงไปแล้ว และเป้าหมายส่วนใหญ่ของพวกเขาเกือบทั้งหมดก็ไม่บรรลุผล แต่สถานการณ์ที่ตรึงเครียดและวิกฤตก็ยังคงดำเนินอยู่ การยิงขีปนาวุธที่เกิดขึ้นที่ฐานทัพอากาศ "อัล-ชะอีรอต" ของซีเรียใกล้เมืองฮ็อมส์นั้น ตามความเชื่อของผู้สังเกตการณ์หลายคนนั้น มันคือบทนำหรือคำเตือนสำหรับการเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลที่ใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว

      เขาเขียนว่า : เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อโฆษกของกองทัพซีเรียได้รายงานเกี่ยวกับกรณีที่ระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียได้จัดการกับการรุกรานจากต่างชาติโดยยิงขีปนาวุธจำนวนหนึ่งและประกาศว่า อิสราเอลอยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ แต่แล้วไม่กี่ชั่วโมงต่อมาได้อธิบายว่าไม่มีการโจมตีใดๆ เกิดขึ้น และสัญญาณการแจ้งเตือนเกิดข้อผิดพลาดทำให้ไซเรนดังขึ้น หน่วยป้องกันทางอากาศได้ยิงขีปนาวุธจำนวนหนึ่งออกไป เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าหน่วยป้องกันทางอากาศของซีเรียอยู่ในสภาพการเตรียมพร้อมสูงสุด เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการโจมตีของอิสราเอลหรือการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล

      อัฏวานได้ชี้ถึงการเตรียมพร้อมของกองทัพของระบอบไซออนิสต์และการเคลื่อนไหวทางทหารของอิสราเอลใกล้กับพรมแดนซีเรียและเลบานอน เนื่องจากหวั่นกลัวต่อการโจมตีแก้แค้นของอิหร่าน โดยได้เขียนว่า : "สงครามทางอ้อม (ตัวแทน) ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลนั้นได้ยุติลงตั้งแต่ช่วงเวลาที่กองกำลังต้านทาน (ฮิซบุลลอฮ์) ได้ทำให้อิสราเอลพ่ายแพ้ในสงครามในปี 2000 และ 2006  แต่ "โทมัส ฟรีดแมน" นักเขียนชาวอเมริกันได้เขียนในบทความของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส โดยได้คาดการณ์ว่า สงครามนี้จะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันโดยตรง (ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล) ในอนาคตอันใกล้นี้

      เขาเขียนว่า : "สงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอลในดินแดนซีเรียมีแนวโน้มที่จะดึงบรรดามหาอำนาจ หมายถึงสหรัฐอเมริกาและรัสเซียเข้ามาสู่สงครามด้วย แม้ว่าพวกเขาจะยับยั้งชั่งใจตนเองก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงคำรายงานต่างๆ เกี่ยวกับวาระอันใกล้นี้ที่จะปลด “โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ทางการเมืองและคุณธรรมนั้น เป็นไปได้ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลจะเริ่มต้นสงครามก่อนที่เขาจะถูกไล่ออกจากทำเนียบขาว เนื่องจากจนถึงขณะนี้ไม่มีประธานาธิบดีคนใดของสหรัฐฯ ที่ได้ขึ้นมาสู่อำนาจจะให้การสนับสนุนอิสราเอลได้ดีไปกว่าทรัมป์

      อัฏวานกล่าวว่า : ทุกการดำเนินการต่อต้านแกนต้านทาน (มุกอวะมะฮ์) จะต้องเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรงอย่างมาก เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพในการป้องกันและการโจมตีของอิหร่าน ซีเรียและฮิซบุลลอฮ์ การสกัดเครื่องบินรบของอิสราเอลที่จะเข้าสู่น่านฟ้าของซีเรีย และการยิงขีปนาวุธผ่านน่านฟ้าของเลบานอน (เข้าไปยังซีเรีย) ก็เป็นการเพียงพอสำหรับศัตรู เนื่องจากกลัวการถูกสอยเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน F-16 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจนอย่างยิ่ง

     เขากล่าวว่า : อิหร่าน ฮิซบุลลอฮ์และซีเรียมีขีปนาวุธที่ทันสมัยมากซึ่งมีจำนวนมากนับหลายแสนลูกและหากไม่ก่อให้เกิดความปราชัยครั้งใหญ่แล้ว ก็เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายให้กับอิสราเอล และจำเป็นต้องเพิ่มเครื่องบินไร้คนขับที่ติดขีปนาวุธและวัตถุระเบิดเข้าไปด้วย สถานการณ์ดูเหมือนว่าจะมืดสนิทสำหรับอิสราเอล เราก็คิดแบบเดียวกับโทมัส ฟรีดแมน และบทความของเขาที่เชื่อว่าประเทศซีเรียจะต้องระเบิดอย่างแน่นอน ซึ่งเรามีความเห็นต่างกับเขาตรงจุดที่ว่า สถานการณ์นี้ยังจะนำไปสู่การล่มสลายของอิสราเอลอีกด้วย

ที่มา : ญอมนิวส์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม