อดีตนายกรัฐมนตรีของระบอบไซออนิสต์ ซึ่งได้รับการรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้หลบหนีออกจากดินแดนที่ถูกยึดครองภายหลังจากปฏิบัติการ "พายุอัล-อักซอ" เขายอมรับในคำพูดของเขาว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดที่อิสราเอลได้ประสบมาจนถึงตอนนี้

          ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว Al-Ahed : "เอฮุด บารัค" อดีตนายกรัฐมนตรีของระบอบไซออนิสต์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า : "การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม (ปฏิบัติการพายุอัล-อักซอ) ถือเป็นการโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดที่อิสราเอลได้รับ"

          เขากล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า : เกิดความล้มเหลวครั้งใหญ่ทั้งในระดับข่าวกรองและการปฏิบัติการ ร่วมถึงในระดับความเป็นผู้นำระดับสูงทางการเมือง

          ในขณะที่บารัคยอมรับความพ่ายแพ้ของระบอบไซออนิสต์ต่อกองกำลังต่อต้านชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ล่าสุดภายหลังที่ปฏิบัติการของกองกำลังต่อต้านชาวปาเลสไตน์ต่อระบอบไซออนิสต์ได้ทวีความรุนแรงขึ้น โดยขีปนาวุธของปาเลสไตน์ไปถึงยังเมืองต่างๆ ของไซออนิสต์ทั้งหมด แหล่งข่าวรายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไซออนิสต์ผู้นี้ได้หลบหนีออกจากเทลอาวีฟ

          ตามรายงานนี้ เอฮุด บารัค ออกจากเทลอาวีฟผ่านสนามบินเบนกูเรียน แหล่งข่าวยังได้เผยแพร่ภาพของเขาที่สนามบินแห่งนี้ด้วย

          ระบอบไซออนิสต์ซึ่งต้องตกตะลึงในสนามรบกับกองกำลังต่อต้านของชาวปาเลสไตน์และประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้ปิดจุดผ่านแดนฉนวนกาซาทั้งหมดด้วยการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเพื่อบังคับให้กลุ่มต่อต้านชาวปาเลสไตน์หยุดปฏิบัติการอันกล้าหาญของ "พายุอัล-อักซอ"

          หกวันผ่านไปนับตั้งแต่เริ่มการโจมตีของฮามาสต่อดินแดนที่ถูกยึดครองด้วยการยิงจรวดประมาณ 5,000 ลูก ตามสถิติที่ประกาศไว้ มีชาวอิสราเอลมากกว่า 1,200 คนถูกสังหารในช่วงเวลานี้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลานี้ ชาวปาเลสไตน์ 1,200 คนต้องถูกสังหารและอีกหลายพันคนได้รับบาดเจ็บ

          จากข้อมูลของ IRNA ชาวไซออนิสต์ซึ่งอาศัยยุทโธปกรณ์ขั้นสูง ได้ประกาศตนเองว่า มีกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่การตกตะลึงของกองทัพและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยข่าวกรองของระบอบไซออนิสต์ที่ล้มเหลวในการประเมินการโจมตีครั้งใหญ่เช่นนี้ ได้ทำลายคำกล่าวอ้างเหล่านี้ทั้งหมดลง ตอนนี้เพื่อเป็นการแก้แค้นและชดเชยความล้มเหลวนี้ อิสราเอลจึงได้โจมตีทางอากาศอย่างโหดร้ายต่อชาวฉนวนกาซา และได้ส่งรถถังและกองกำลังติดอาวุธไปยังรอบชายแดนฉนวนกาซา

ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลามสถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม