foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ปอมเปโอ เก็บอาการไม่อยู่ หลังความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างอิหร่านและอิรัก

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนอื่นๆ ของประเทศนี้ที่แสดงความไม่พอใจต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างอิหร่านและอิรัก และกล่าวอ้างว่าเตหะรานกำลังพยายามเปลี่ยนรัฐบาลกรุงแบกแดดให้เป็น "รัฐส่วย"

    สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่า ในขณะที่ "ฮะซัน รูฮานี" ประธานาธิบดีอิหร่านเดินทางเยือนอิรัก บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาต่างประดาหน้าออกมาแสดงความโกรธแค้นต่อความสัมพันธ์ที่ดีของกรุงเตหะรานและกรุงแบกแดด

    สองวันที่ผ่านมา "ไบรอัน ฮุค" ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในกิจการเกี่ยวกับอิหร่าน แสดงปฏิกิริยาที่มีต่อการเดินทางเยือนกรุงแบกแดดของประธานาธิบดีรูฮานี โดยกล่าวคำพูดต่างๆ ที่เป็นการดูถูกเหยียดหยามประชาชนชาวอิรักด้วยการกล่าวอ้างว่า อิหร่านต้องการเปลี่ยนอิรักให้กลายเป็น "จังหวัดหนึ่งของตนเอง" มาคราวนี้ "ไมค์ ปอมเปโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ในถ้อยแถลงที่คล้ายกันก็ได้กล่าวว่า อิหร่านกำลังพยายามเปลี่ยนอิรักให้กลายเป็น "รัฐส่วย"

    ในช่วงคืนที่ผ่านมาในการประชุมด้านพลังงาน "CERAWeek" ในเมืองฮุสตัน ขณะที่เขากำลังพูดถึงเรื่องพลังงานและนโยบายต่างประเทศนั้น เขาได้พูดนอกเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและอิรักโดยอ้างว่าเตหะรานกำลังใช้ประโยชน์จากกรุงแบกแดดในทางที่ผิด

    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า : "อิหร่านกำลังใช้การส่งออกพลังงานเพื่อขยายอิทธิพลปกคลุมไปทั่วตะวันออกกลาง ซึ่งวันนี้ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของมันคือในอิรัก ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังพยายามทำให้เป็นอิสระและมีอำนาจอธิปไตย แต่อิหร่านกำลังใช้พลังงานของตนเพื่อสร้างรัฐบาลส่วย"

    ปอมเปโอได้กล่าวเสริมว่า : "หลายเดือนที่ผ่านมาเราได้ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อลดการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านไปทั่วโลกเพื่อโน้มน้าวบรรดาผู้นำอิหร่านให้พวกเขากลับมาให้ความสนใจต่อพลเมืองของตนต่อสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพื่อที่เราจะลดความเสี่ยงของการลอบสังหารและความไร้เสถีบรภาพในตะวันออกกลาง"

    รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งได้ถอนตัวออกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อเดือนพฤษภาคม (2018)  ที่ผ่านมาและได้ทำการคว่ำบาตรทางน้ำมันและการธนาคารรอบใหม่ โดยพยายามที่จะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านอยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเป้าหมายดังกล่าวนี้ วอชิงตันได้กดดันพันธมิตรทางธุรกิจและเพื่อนบ้านของอิหร่านจำนวนมากลดความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับอิหร่าน

    อิรักเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกกดดันอย่างเปิดเผยโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อให้หยุดการนำเข้าพลังงานจากอิหร่านและลดความสัมพันธ์ทางการค้ากับเตหะราน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้กรุงแบกแดดได้ต่อต้านการกดดันเหล่านี้ และการเยือนกรุงแบกแดดล่าสุดของประธานาธิบดีรูฮานีนั้น รัฐบาลแบกแดดได้ตอกย้ำถึงเจตจำนงของตนในการพัฒนาความสัมพันธ์กับอิหร่านอีกครั้ง

    ในวันจันทร์ (11 มี.ค.) ที่ผ่านมา "บาร์ฮัม ซอและห์" ประธานาธิบดีอิรักได้กล่าวหลังจากพบกับรูฮานีว่า ชาวอิรักถือว่า "ประชาชนชาวอิหร่านเป็นครอบครัวของเขาและอิหร่านเป็นประเทศที่สองของตน” และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลของทั้งสองประเทศพยายามในการขยายความสัมพันธ์ระหว่างกรุงเตหะรานและกรุงแบกแดดในด้านต่างๆ อย่างเช่น ทางรถไฟ, การท่องเที่ยว, สิ่งแวดล้อม, อุตสาหกรรม, การขุดเหมืองแร่, และความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม


ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม