ศูนย์กลางแหล่งน้ำมันและโรงกลั่นที่สำคัญของซาอุดิอาระเบียในตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ที่ติดชายแดนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตกเป็นเป้าของหน่วยอากาศยานไร้คนขับของกองทัพบกและอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมน โดยมีแผนปฏิบัติการโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับ 10 ลำ

    สำนักข่าวฟาร์สรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคมว่า นายพลจัตวา "ยะห์ยา ซะรีอ์" โฆษกของกองทัพเยเมนประกาศว่า ได้กำหนดเป้าหมายการโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับ 10 ลำไปที่โรงงานผลิตน้ำมันอารามโก (Saudi Aramco) ใกล้พรมแดนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ในบริบทของการปฏิบัติการ "ป้องปรามหมายเลขหนึ่ง"

    ตามรายงานของโทรทัศน์อัล มะซีเราะฮ์ เขากล่าวว่า ในปฏิบัติการครั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายไปที่แหล่งน้ำมันและโรงกลั่นชัยบะฮ์ (Shaybah) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครืออารามโก (Saudi Aramco) ในภาคตะวันออกของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ห่างจากชายแดนยูเออี 10 กม.) นอกจากนี้กองทัพเยเมนยังได้เรียกร้องให้กลุ่มบริษัทต่างชาติหลีกเลี่ยงและออกจากพื้นที่เป้าหมายต่างๆ ที่สำคัญในซาอุดิอาระเบีย

   เขากล่าวว่า แหล่งน้ำมันและโรงกลั่นชัยบะฮ์ของซาอุดิอาระเบียถือเป็นแหล่งสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดและมีความสามารถในการจัดเก็บน้ำมันสำรองได้มากกว่าหนึ่งพันล้านบาร์เรล

    โฆษกของกองทัพเยเมนได้กล่าวชมเชยทุกคนที่มีส่วนร่วมใน"ชัยชนะ" พร้อมกับขู่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียว่า หากไม่หยุดการโจมตีเยเมน จะเริ่มปฏิบัติการครั้งใหญ่กว่าและวงกว้างกว่านี้

เหมืองทองคำ

    ตามข้อเขียนของหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน จากพื้นที่แหล่งน้ำมันชัยบะฮ์นี้ น้ำมันคุณภาพสูงจะถูกขุดเจาะออกมาปริมาณ 600,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ในพื้นที่แหล่งน้ำมันดังกล่าวนี้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนหนึ่งพันคนและตั้งอยู่ห่างจากชายแดนทางทิศตะวันออกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประมาณ 10 กิโลเมตร หนังสือพิมพ์นี้ยังได้เขียนอีกว่า มูลค่าของแหล่งน้ำมันนี้อยู่ในฐานะของ "เหมืองทองคำ" หนึ่ง

   พื้นที่แหล่งน้ำมันแห่งนี้ซึ่งได้เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1998 เป็นพื้นที่พิพาทระหว่างซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และการเจรจาในเรื่องดังกล่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่บรรลุผล

   นับจากหลายเดือนที่ผ่านมากองทัพและกลุ่มอันซอรุลลอฮ์ของเยเมนได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีอย่างกว้างขวางเข้าไปในดินแดนของซาอุดิอาระเบียโดยใช้โดรนและขีปนาวุธ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีการโจมตีโดยใช้โดรนก็ตาม แต่การโจมตีในวงกว้างและพิสัยของการโจมตีในขณะนี้ถือเป็นพัฒนาการใหม่ในสงครามเยเมน

   ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนับเป็นครั้งแรกที่หน่วยอากาศยานไร้คนขับของเยเมนสามารถบินลึกเข้าไปในดินแดนของซาอุดิอาระเบียได้ในระยะทางถึง 850 กิโลเมตรโดยกำหนดเป้าหมายไปที่ท่อส่งน้ำมันทางตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุดิอาระเบีย การโจมตีครั้งนั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในสงครามโดยที่ซาอุฯ ได้เชิญบรรดาผู้นำประเทศอาหรับเข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับประเด็นนี้ในนครมักกะฮ์ พร้อมกันนั้นรัฐบาลริยาดก็หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

    แต่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านนายพลจัตวา "ยะห์ยา ซะรีอ์" ได้ประกาศต่อหน้าสื่อทั้งหลายว่า : "เราได้กำหนดเป้าหมายทางทหารที่สำคัญในเมืองดัมมามด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ทันสมัย และเราขอเรียกร้องบริษัทต่างชาติทั้งหลายในซาอุดิอาระเบียอีกครั้งหนึ่ง ให้ถอยห่างจากพื้นที่เป้าหมายทางทหารที่สำคัญต่างๆ " ดัมมามอยู่ลึกเข้าไปในซาอุดิอาระเบียเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร และระบบป้องกันภัยทางอากาศของซาอุดิอาระเบียที่ซื้อจากสหรัฐอเมริกาไม่สามารถแสดงการตอบโต้ต่อการโจมตีเหล่านี้ได้เลย

     สนามบิน "อับฮา" และฐานทัพอากาศ "มาลิก คอลิด" และสนามบิน "นัจรอน" ก็ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีโดยโดรนและขีปนาวุธของเยเมนเป็นครั้งคราว

ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม