foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

In the name of Allah I بِسْــــــــــــــــــمِ اﷲِالرَّحْمَنِ اارَّحِيم

Assalamualaikum I اَلسَّلَامُ عَلَيْكُم

ขอความสันติ จงมีแด่ท่าน I Peace Be Upon You

WELCOME TO IICTH.COM I ยินดีต้อนรับ สู่เว็บไซต์

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม I Islamic Information Center

ภาพ-นิทรรศการ

25,10,0,50,1
5,600,50,1,3000,500,25,800
100,150,1,50,12,30,50,1,70,12,1,40,1,1,1,3000
0,1,0,0,2,40,15,5,2,1,0,17,0,1
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW..
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...
Loves Of Muhammad SAW...

การล่มสลายของลัทธิวะฮ์ฮาบี โดยการทำลายจากหลานชายของผู้ก่อตั้ง

นับจากช่วงเวลาที่มุฮัมมัด บินซัลมานได้ลดคุณสมบัติและอำนาจของ "คณะกรรมการกำชับความดีและห้ามปรามความชั่ว" ลงซึ่งเป็นคณะกรรมการทางการที่ทำหน้าที่เป็นตำรวจศาสนา ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1940 นั้น เป็นการจัดเตรียมพื้นฐานสำหรับ "เตอร์กี อาลิชชัยค์" เพื่อนำเอานักร้องนักเต้นชาวตะวันตกและชาวอาหรับ

    ลัทธิวะฮ์ฮาบีซึ่ง "มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮ์ฮาบ" ได้ก่อตั้งขึ้นโดยการตีความที่ผิดเพี้ยนเกี่ยวกับคำสอนของศาสนาอิสลาม ซึ่งในปี 1745 ราชวงศ์ซะอูดภายหลังจากการร่วมมือกันระหว่าง "มุฮัมมัด บินซะอูด" และ "มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮ์ฮาบ" ได้ทำให้กำเนิดเป็นมัซฮับ (นิกาย) อย่างเป็นทางการของคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งในวันนี้กำลังจะล่มสลายลงอย่างรวดเร็วโดยน้ำมือของหลานชายของผู้ก่อตั้งลัทธิวะฮ์ฮาบีเอง และนั่นก็คือ "เตอร์กี อาลิชชัยค์" หัวหน้าคณะกรรมการฝ่ายสันทนาการและการบันเทิงซึ่งดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของ "มุฮัมมัด บินซัลมาน" มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย

    นับจากช่วงเวลาที่มุฮัมมัด บินซัลมานได้ลดคุณสมบัติและอำนาจของ "คณะกรรมการกำชับความดีและห้ามปรามความชั่ว" ลงซึ่งเป็นคณะกรรมการทางการที่ทำหน้าที่เป็นตำรวจศาสนา ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1940 นั้น เป็นการจัดเตรียมพื้นฐานสำหรับ "เตอร์กี อาลิชชัยค์" เพื่อนำเอานักร้องนักเต้นชาวตะวันตกและชาวอาหรับ ตลอกจนคณะคอนเสิร์ตจากตะวันตกเข้าไปยังซาอุดิอาระเบีย เพื่อต่อสู้กับลัทธิวะฮ์ฮาบี โดยที่ทุกคนที่เป็นที่รู้จักกันดีในนามของนักเผยแพร่ (มุบัลลิฆ) นักวิชาการศาสนา (อาลิม) และบรรดาผู้รู้หรือเชคต่างวางตัวเป็นกลาง (วางเฉย) เพื่อรักษาชีวิตของตนไว้ โดยไม่แสดงการคัดค้านใดๆ เนื่องจากว่า ก่อนหน้านี้บรรดาผู้ที่คัดค้านในเรื่องนี้ถูกจำคุกและบางคนก็ต้องเสียชีวิตเนื่องจากการถูกทรมาน

    บรรดานักวิพากษ์วิจารณ์เตอร์กี อาลิชชัยค์ จากกลุ่มผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้กล่าวหาเขาว่ากำลังทำการ "ปฏิวัติ" ทำลายประเพณีและขนบธรรมเนียมของซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนซาอุดิอาระเบียให้เป็นก๊อปปี้ของยูเออี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาบูดาบีและดูไบเพื่อทำให้ประเทศกลายเป็น "กิบลัต" (จุดดึงดูด) บรรดานักท่องเที่ยว!

    ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา เตอร์กี อาลิชชัยค์ ได้ประกาศการเริ่มต้นกิจกรรมต่างๆ ของ "เทศกาลริยาด" เป็นเวลา 70 วัน ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขันและรายการต่างๆ ที่เรียกว่าสันทนาการและความบันเทิง แต่รายการและกิจกรรมเหล่านี้เต็มไปด้วยความไม่เคารพหลักการศาสนาและพฤติกรรมต่างๆ แบบตะวันตกซึ่งไม่สอดคล้องกับจารีตประเพณีและขนบธรรมเนียมของสังคมอาหรับและอิสลาม

    เตอร์กี อาลิชชัยค์ ได้รับผิดชอบตำแหน่งหัวหน้าองค์กรกีฬาในซาอุดิอาระเบียในปี 2017 และหลังจากนั้นในช่วงปลายปี 2018 ได้รับตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการสันทนาการและการบันเทิง

    อย่างไรก็ตามความพยายามทั้งหมดของเขาในการจัดมหกรรมคอนเสิร์ต การเต้น ความไม่ระวังรักษาเรื่องของศีลธรรมและการปรากฏตัวของบรรดาสตรีในมหกรรมเหล่านี้ โดยไม่มีการกำกับดูแล บรรดานักวิชาการและนักเผยแพร่ศาสนาชาววะฮ์ฮาบีไม่ได้คัดค้านเขาอย่างเปิดเผยและพวกเขาได้ละทิ้งบทบาทของตนใน "การกำชับความดีและการห้ามปรามความชั่ว" พวกเขาไม่ได้เอ่ยถึงแม้แต่เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับฤดูร้อนของปีนี้ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยมหกรรมคอนเสิร์ตและการเต้น ซึ่งการออกห่างจากขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมอาหรับ ทว่าพวกเขาเพียงพอแค่การเขียนดุอาอ์ คำรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า (ซิกร์) และประโยคคำพูดที่เป็นแง่คิดต่างๆ ลงในบัญชีทางการของพวกเขาบนโซเชียลมีเดีย แม้แต่นักวิชาการรบางคนอย่างเช่น อาดิล อัล กัลบานี (Adil al-Kalbani) ซึ่งมึความใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดิอาระเบียก็ยังให้การสนับสนุน เตอร์กี อาลิชชัยค์ กระทั่งว่าได้เข้าร่วมในมหกรรมเหล่านี้ด้วยตัวเอง

    สิ่งซึ่งเป็นเรื่องแน่นอนและจะต้องเกิดขึ้นก็คือ สำนักคิดวะฮ์ฮาบีที่มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮ์ฮาบได้ก่อตั้งขึ้นนั้นจะไม่หลงเหลือร่องรอยใดๆ อีกต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ สำนักคิดนี้มีความขัดแย้งอย่างมากมายกับคำสอนต่างๆ ของอิสลามที่วางพื้นฐานอยู่บนของการผ่อนปรนและการทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติ (ตะซามุห์) และสำนักคิดนี้ได้บังคับประชาชนในคาบสมุทรอาหรับให้ยอมรับด้วยกับอำนาจของดาบโดยที่มีการหลั่งเลือดประชาชนอย่างมากมาย

    แต่ประเด็นที่ควรตระหนักก็คือ อาคาร (สำนักคิด) ที่มุฮัมมัด บินอับดุลวะฮ์ฮาบได้ก่อตั้งขึ้นนั้นกำลังถูกรื้อทำลายลงโดย "เตอร์กี อาลิชชัยค์" หลานชายของตนเอง อีกทั้งการรื้อทำลายนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบนพื้นฐานและหลักการที่ถูกต้อง เนื่องจากเตอร์กี อาลิชชัยค์ ไม่ได้พึ่งพาอาศัยหลักการและความเชื่อที่ถูกต้อง ทว่าเขาได้เน้นย้ำอยู่กับความเสื่อมเสียทางศีลธรรม (ฟะซาด) และการไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ของศาสนา นั่นคือประเด็นซึ่งจะมีผลกระทบต่างๆ ร้ายแรงติดตามมาในอนาคต


ที่มา : อัล อาลัม

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม