ท่านอายะตุลลอฮ์ ซัยยิดอะลีอัคบาร์ กุเรชี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักวิชาการศาสนาที่โดดเด่นของอาเซอร์ไบจาน และเป็นอดีตสมาชิกในทุกสมัยของสภาผู้เชี่ยวชาญคัดสรรผู้นำ ในหนังสือบันทึกความทรงจำของท่าน ท่านได้เล่าถึงเรื่องราวที่ชวนอ่านอย่างมากเอาไว้เกี่ยวกับการแจ้งข่าวที่ดีของชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) และได้แสดงให้เห็นถึงหลักฐานประการหนึ่งของการสนับสนุนจากโลกแห่งความเร้นลับที่มีต่อการปฏิวัตินี้ พร้อมกันนั้นในอีกด้านหนึ่ง ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความยิ่งใหญ่ของตัวท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.)

    ช่วงเวลาผ่านไปหลายปีหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม วันหนึ่งในเมืองอุรูมียะฮ์ ข้าพเจ้าได้ยินท่านอายะตุลลอฮ์ค็อซอะลี กล่าวถึงประเด็นหนึ่งในการปราศรัยต่อสาธารณะชน โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

   "ในช่วงเหตุการณ์แห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน ท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) ได้แจ้งและชี้ถึงชัยชนะของการปฏิวัตินี้ให้กับท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้รับรู้ไว้สองครั้ง การแจ้งข่าวทั้งสองครั้งนี้ได้ส่งถึงท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) โดยผ่านบุคคลผู้มีเกียรติและมีจิตวิญญาณที่สูงส่งท่านหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในเตหะราน และข้าพเจ้าเองรู้จักเขาผู้นั้นเป็นอย่างดี”

  ประเด็นดังกล่าวนี้ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกพิศวงเป็นอย่างมาก และข้าพเจ้าพยายามที่จะแสวงหาความจริงในเรื่องนี้ จนกระทั่งไม่กี่เดือนต่อมา ในการประชุมของสภาผู้เชี่ยวชาญ ข้าพเจ้าได้พบท่านอายะตุลลอฮ์ค็อซอะลี และได้ถามท่านเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ท่านอายะตุลลอฮ์ค็อซอะลีได้ยืนยันในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า "ถ้าเป็นเช่นนั้น หากข้าพเจ้าจะเขียนจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อถามท่านเกี่ยวกับประเด็นนี้ ท่านจะเขียนคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรได้หรือไม่" ท่านกล่าวว่า “ได้ซิ! ไม่มีปัญหาอะไร ท่านจงเขียนถามมา แล้วข้าพเจ้าจะเขียนตอบท่านในทั้งสองประเด็น”

    ข้าพเจ้าได้เขียนว่า

     “ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตายิ่งผู้ทรงปราณีเสมอ”

    เรียน ฯพณฯ อายะตุลลอฮ์ค็อซอะลี (ขออัลลอฮ์ทรงทำให้ความจำเริญของท่านยาวนานสืบเนื่อง) ขอความศานติและความจำเริญจากอัลลอฮ์พึงประสบแด่ท่าน ได้โปรดกรุณาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการแจ้งข่าวดีถึงชัยชนะ (ของการปฏิวัติ) ทั้งสองครั้ง ที่ท่านละฏีฟี ได้นำมาจากท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) ที่ส่งถึงท่านอิมาม (โคมัยนี (ร.ฮ.) )"

     ท่าน (อายะตุลลอฮ์ค็อซอะลี) ได้เขียนตอบว่า

    “ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตายิ่งผู้ทรงปราณีเสมอ”

    สาส์นที่ส่งไป (ถึงท่านอิมามโคมัยนี) ที่กรุงปารีส ซึ่งกล่าวว่า “กษัตริย์ชาห์จะต้องไป ท่านไม่ต้องกังวล (ในเรื่องนี้)” ท่านอิมามโคมัยนีถามว่า “จะมีการนองเลือด หรือปราศจากการนองเลือด” ท่าน (ละฏีฟี) กล่าวว่า ท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า “โดยปราศจากการนองเลือด”

    วันที่ 22 ของเดือนบะห์มัน [ในจดหมายของท่านอายะตุลลอฮ์ค็อซอะลี เขียนว่าวันที่ 22 บะห์มัน แต่สาส์น (คำสั่ง) ของท่านอิมามโคมัยนี ที่กำหนดให้ประชาชนออกมาจากบ้านเรือนนั้น เป็นวันที่ 21 ของเดือนบะห์มัน] เป็นสาส์นที่กล่าวว่า “พวกท่านจะต้องไม่อยู่ในบ้าน แต่จงหลั่งไหลกันออกมา (สู่ท้องถนน) มิฉะนั้นแล้วพวกท่านจะถูกฆ่า”

    โดยสื่อจากสาส์นดังกล่าวนี้ ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) จึงประกาศว่า “พวกท่านทั้งหลายไม่ต้องสนใจต่อกฎอัยการศึก และจงหลั่งไหลกันออกมา (สู่ท้องถนน)” ในที่สุดประชาชนชาวเตหะรานก็หลั่งไหลกันออกมา แม้แต่ครอบครัวของตนเองก็นำออกมากันทั้งหมด โดยที่ในกรุงเตหะรานนั้น ไม่มีโอกาสที่จะนำรถถังและสิ่งอื่นใดออกมาได้อีกเลย ด้วยเหตุนี้เอง ตามแผนการที่อันตรายยิ่งที่พวกเขามีเจตนาที่จะนำรถถังหลายร้อยคันเข้าสู่เตหะราน และจะทำลายการปฏิวัติลงอย่างราบคาบโดยการฆ่าสังหารประชาชน และทิ้งระเบิดลงในบริเวณที่อยู่อาศัยของท่านอิมามโคมัยนี ทั้งหมดเหล่านี้จึงหมดโอกาสที่จะทำ [เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการทำรัฐประหารครั้งใหญ่ที่ถูกวางแผนไว้สำหรับวันนี้ ได้ค้นถูกพบภายหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติ และเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ด้วยกับคำสั่งของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ที่ให้หลั่งไหลกันออกไปสู่ท้องถนนต่างๆ นั้น ทำให้โอกาสของการทำรัฐประหารหมดไปโดยสิ้นเชิง]

    ประเด็นนี้ ท่านอายะตุลลอฮ์ค็อซอะลี ได้ยืนยันทั้งโดยคำพูดและโดยลายลักษณ์อักษรของท่าน อีกกรณีหนึ่งในประเด็นเดียวกันนี้ คือความทรงจำของ “มุรตะฎออี ฟัร” ซึ่งได้เล่าไว้ในนิตยสาร “ซิพอฮ์” ฉบับหนึ่ง และยืนยันเกี่ยวกับสาส์นแห่งชัยชนะของท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) ที่มีถึงท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.)

    เขากล่าวถึงความทรงจำดังกล่าวว่า ในวันที่ 21 ของเดือนบะห์มัน ปี 1357 พวกเรานั่งกันอยู่ที่บ้านของท่านอายะตุลลอฮ์ฏอละกอนี มีผู้กล่าวกับท่านว่า “ท่านอิมาม (โคมัยนี) ได้มีสาส์นออกมาว่า ให้ประชาชนออกมาจากบ้านเรือนของตนเอง พวกเขาจะต้องหลั่งไหลกันไปสู่ท้องถนน และไม่ต้องใส่ใจต่อกฎอัยการศึก”

   ท่านอายะตุลลอฮ์ฏอละกอนี กล่าวว่า “ท่านอิมาม (โคมัยนี) ได้อยู่ห่างไกลจากประเทศอิหร่านถึงสิบห้าปีแล้ว ท่านไม่ทราบหรอกว่า พวกเพชฌฆาตของรัฐบาลนี้มันโหดร้ายเพียงใด หากประชาชนกรูกันออกไป พวกเขาจะสังหารหมู่ทั้งหมด ดังนั้นทางที่ดีแล้วพวกเราควรจะนั่งอยู่ในบ้านเรือน แล้วรอดูว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร”

   หลังจากนั้นท่านอายะตุลลอฮ์ฏอละกอนี ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับท่านอิมามโคมัยนีประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อว่าบางทีอาจจะทำให้ท่านยอมรับว่าไม่ควรให้ประชาชนออกจากบ้านเรือนของพวกเขา พวกเราได้ยินคำพูดของท่านอายะตุลลอฮ์ฏอละกอนี ที่พยายามเท่าที่จะสามารถกระทำได้เพื่อจะทำให้ท่านอิมามโคมัยนีเปลี่ยนการตัดสินใจของตนเอง ที่จะให้ประชาชนกรูกันออกไปจากบ้านเรือนของตน โดยไม่สนใจต่อกฏอัยการศึก

  จนกระทั่งอายะตุลลอฮ์ฏอละกอนีวางหูโทรศัพท์ และนั่งกอดเข่าของตนอยู่ในมุมหนึ่ง อยู่ในสภาพที่เงียบสนิท กระทั่งว่าท่านต้องเอาศีรษะของตนเองซุกลงกับเข่าทั้งสองของท่าน ในสภาพที่วิตกกังวลอย่างหนัก

    พวกเรากล่าวกับตัวเองว่า ท่านอิมามโคมัยนีคงจะพูดอะไรต่อท่าน (อายะตุลลอฮ์ฏอละกอนี) เป็นแน่ อย่างเช่น ท่านอิหม่ามจะกล่าวว่า ท่านอย่าได้มายุ่งในการตัดสินใจนี้ เป็นต้น จึงทำให้ท่านอายะตุลลอฮ์ฏอละกอนีไม่สบายใจ แต่พวกเรายังมั่นใจที่จะพูดสิ่งใดกับท่าน ทันใดท่านได้เงยศีรษะขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลับสู่สภาพปกติ พวกเราถามท่านว่า “ท่านเป็นอะไรไปหรือ! ท่านอิมาม (โคมัยนี) ตะคอกใส่ท่าน หรือว่าพูดสิ่งใดที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ”

   ท่านอายะตุลลอฮ์ฏอละกอนีกล่าวว่า “ไม่! ไม่! ปัญหาไม่ใช่เช่นนั้นเลย ฉันรบเร้าและยืนกรานที่จะให้ท่านอิมามยกเลิกคำประกาศต่างๆ ของท่าน ไม่ว่าท่านอิมามจะพูดอย่างไร ฉันก็ยังคงไม่มั่นใจ จนกระทั่งท้ายที่สุดท่านได้กล่าวว่า ‘โอ้ฏอละกอนีเอ๋ย! อย่ารบเร้าให้มากไปกว่านี้เลย จงคิดบ้างซิว่า นี่เป็นคำสั่งมาจากท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.)’ เมื่อท่านอิมามโคมัยนีกล่าวคำพูดประโยคนี้ออกมา ร่างกายของฉันต้องสั่นเทา ฉันต้องวางหูโทรศัพท์ลงโดยไม่รู้ตัว และสภาพของฉันก็ได้เปลี่ยนไป (อย่างที่เห็น)"

   ด้วยเหตุนี้เอง ความลับของความเป็นผู้นำที่เฉียบขาดและมีความมั่นใจต่อชัยชนะของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ในชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามครั้งนี้ เกิดจากการสนับสนุนจากสิ่งเร้นลับที่มีต่อท่าน และท่านอยู่ในสายตาของท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.)

ที่มา : หนังสือความทรงจำของท่านอายะตุลลฮ์ซัยยิด อะลีอัคบารี กุเรชี, สำนักพิมพ์ศูนย์รวบรวมเอกสารต่างๆ ของการปฏิวัติอิสลาม, หน้าที่ 133 ถึง 136

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม